น่าเที่ยว



   สวัสดีครับ วันนี้เราจะพาไปยุโรปกัน ใครอยากไปบ้างยกมือขึ้น ผมว่าคงต้องมีมากแน่ๆเลย ผมเองก็เป็นหนึ่งในชาวไทยและชาวโลกอีกหลายคนที่อยากเที่ยวยุโรปเนื่องจากยุโรปเป็นทวีปที่สวยงามประกอบด้วยประเทศที่สวยงามและเป็น มหาอำนาจของโลกอย่างอังกฤษ อดีตจักรวรรดิโรมันตะวันออกอย่างกรุงโรมประเทศอิตาลี เมืองน้ำหอม อาหาร วิวงามๆอย่างฝรั่งเศส เอกราชนครที่เล็กที่สุดในโลกอย่างนครรัฐวาติกัน เมืองกังหันและทิวลิปอย่างเนเธอแลนด์ และอีกมากมาย ล้วนน่าสนใจไม่แพ้กัน สำหรับวันนี้เราจะพาไปเที่ยวประเทศไหนบ้างในยุโรป จะตรงกับประเทศที่ท่านอยากไปหรือเปล่า Les' go!!!
    เริ่มต้นที่น้องเล็กกันก่อนเลย
ท่องเที่ยวในยุโรปกับ นครรัฐวาติกัน เมืองแห่งศาสนา
       นครรัฐวาติกันป็นประเทศเอกราชที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก(เหมือนไทยเลยครับแต่ไทยใหญ่กว่า) แต่อยู่ใจกลางกรุงโรม มีกำแพงล้อมรอบเกือบทุกด้าน ยกเว้นด้านมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ชื่ออย่างเป็นทางการของประเทศนี้คือ Holy See คำว่า see เป็นศัพท์ทางคริสตศาสนา น่าจะแปลว่า ศาสนจักร ประเทศนี้เกิดขึ้นได้ไม่นานในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สองเล็กน้อ

        สิ่งที่น่าสนใจอันดับหนึ่งก็คือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์และลานด้านหน้า จักรพรรดิคอนสแตนตินที่นับถือศาสนาคริสต์ได้สร้างวิหารขึ้นที่บริเวณนี้เป็นครั้งแรกในคริสตศตวรรษที่ 4 แต่วิหารก็เสื่อมโทรมและพังทลายลง จนอีกหนึ่งพันปีต่อมาได้มีการสร้างมหาวิหารหลังปัจจุบันขึ้นมาแทนที่ ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินหลายท่าน แต่ส่วนใหญ่จะยกย่อง มิเคลันเจโล(ศิลปินชื่อดัง)ที่มีส่วนสำคัญในการก่อสร้างโดยเฉพาะยอดโดมที่สวยงาม


      
        ส่วนลานขนาดมหึมาด้านหน้าเป็นผลงานของศิลปินรุ่นหลังที่ชื่อ แบร์นินี (Bernini) ผู้ออกแบบน้ำพุต่าง ๆ รอบกรุงโรม (แสดงว่าลานสร้างหลังมหาวิหาร)เชื่อกันว่าตัวมหาวิหารสร้างบนที่ซึ่งเซนต์ปีเตอร์หรือที่รู้จักในบ้านเราว่านักบุญเปาโตรถูกประหารชีวิตด้วยการตรึงกางเขนแบบกลับหัวลงในยุคโรมันโบราณ (กลัวว่าผีจะดุใช่หรือเปล่าครับ แต่ผมลองอ่านจากข้อมูลหลายข้อมูลดูเขาบอกว่าไม่มีครับ ไม่ต้องกลัว)
        ภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สามารถเข้าชมได้ฟรี แต่ต้องผ่านกระบวนการตรวจตราอย่างละเอียด แล้วถ้าไปในช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือเทศกาลสำคัญทางศาสนาก็ต้องต่อแถวยาวมาก ซึ่งการต่อแถวเพื่อเข้าชมอะไรก็ตามในประเทศอิตาลีถือเป็นของธรรมดา(คล้ายการต่อแถวเข้าดูตึกไทยคู่ฟ้าในวันเด็กของไทย)
      สิ่งสำคัญภายในตัววิหารคือรูปประติมากรรมหินอ่อนอันมีชื่อเสียงของมิเคลันเจโล่ชื่อว่า Pieta ซึ่งเป็นรูปของพระแม่มารีประคองร่างของพระเยซูหลังจากสิ้นพระชนม์บนกางเขนไว้บนตัก เป็นรูปแกะสลักซึ่งสื่อถึงอารมณ์ความรักของแม่ได้อย่างลึกซึ้ง




      บริเวณโดยรอบจะมีผู้ดูแลที่ทำหน้าที่เป็นทหารคุ้มครองพระสันตปาปา เรียกว่า Swiss guards มีประมาณร้อยนาย ทหารพวกนี้เป็นชาวสวิสทั้งหมด (เพราะถ้าเอาทหารอิตาลีมาเป็นทหารส่วนประองค์อาจเกิดการรวมประเทศ จึงเอาทหารสวิสฯมาแทนเนื่องจากเป็นประเทศที่เป็นกลางมากที่สุด)

     ที่สุดท้ายที่พลาดไม่ได้คือพิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican museum) ถึงแถวจะยาวแค่ไหน ถึงค่าเข้าจะเป็นเท่าไหร่ก็ตาม ถ้ามีเวลาซักครึ่งค่อนวันก็ควรจะหาโอกาสมาชมให้ได้เพราะเป็นที่รวมของงานศิลปะระดับโลกมากมายมีทั้งมัมมี่และงานประติมากรรมจากอียิปต์รูปแกะสลักหินอ่อนจากยุคกรีกโรมันโบราณรวมทั้งภาพวาดแบบเฟรสโก้จากศิลปินชื่อดังโดยเฉพาะมิเคลันเจโลและราฟาเอล 
      ห้องที่มีชื่อเสียงที่สุดคือห้องซิสทีน(SistineChapel) ซึ่งใครที่มาชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ต่างก็ต้องการชมห้องนี้ให้ได้ห้องนี้ใช้เป็นที่ประชุมของพระคาร์ดินัลเพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ต่อมีภาพวาดที่สวยงาม มิเคลันเจโลใช้เวลาถึง 4 ปีกินนอนอยู่บนนั่งร้าน
เพื่อวาดภาพปูนเปียกเป็นเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับปฐมกาล (Genesis) ตั้งแต่การสร้างโลก สร้างมนุษย์เพศหญิง สร้างมนุษย์เพศหญิง (Eve)จากซี่โครงของผู้ชาย อีฟทรยศต่อพระเจ้าจนถูกขับออกจากสวนอีเดนและภาพน้ำท่วมโลก รวมทั้งหมด 9 ภาพ
4 ปีต่อมา มิเคลันเจโลได้ถูกว่าจ้างให้กลับมาวาดภาพที่ห้องนี้อีกครั้ง เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดชื่อว่า วันพิพากษา (The Last Judgement) เป็นภาพที่เมื่อถึงวันสิ้นสุดโลก พระเจ้า(พระเยซูในรูป)จะเสด็จกลับลงมาและพิพากษามนุษย์แต่ละคนว่าใครควรจะขึ้นสวรรค์ ใครควรจะลงนรก ภาพนี้อยู่บนผนังกำแพงด้านหนึ่งเต็มๆ ของห้อง
       ออกจากวาติกันมา จะต้องเห็นปราสาทแห่งนี้ที่ชื่อว่า Castel Sant'Angelo ถึงจะไม่ได้อยู่ในกำแพงวาติกัน แต่ก็ถือว่าอยู่ในอาณาจักรของวาติกันตามสนธิสัญญาที่มุสโสลินีได้ให้ไว้ จะมีทางเดินลับเชื่อมระหว่างปราสาทแห่งนี้กับพระราชวังของพระสันตปาปาเพื่อเอาไว้หลบภัยหากศัตรูคิดจะมาจับตัวพระองค์ ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์
      จบกันไปแล้วน่ะครับสำหรับการไปเที่ยวนครรัฐวาติกัน ราชอาณาจักรที่เล็กที่สุดในโลก เมืองนี้เป็นเมืองแห่งศาสนาศิลปะอันสวยงามจิ๋วแต่แจ๋ว อย่าลืมไปให้ได้น่ะครับ


     มาดูอีกประเทศครับ ประเทศนี้ผมอยากไปมากที่สุด
เนเธอแลนด์ แดนกังหัน
เนเธอแลนด์มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าราชอาณาจักร เนเธอแลนด์ นอกจากนี้แล้วเนเธอแลนด์ยังถูกเรียกว่า ฮอลแลนด์ มีเมืองหลาวงคือกรุงอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)
ธงประจำชาติ ประเทศเนเธอร์แลนด์

ภูมิศาสตร์

           ประเทศฮอลแลนด์เป็นประเทศขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทวีปยุโรป ฮอลแลนด์เป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมทั้งจากประเทศเยอรมนี ประเทศอังกฤษ และประเทศฝรั่งเศส อีกจุดเด่นหนึ่งของประเทศฮอลแลนด์ก็คือ ภูมิประเทศที่เป็นที่ราบกว้างใหญ่ อย่างไรก็ดีสิ่งนี้ส่งผลให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามนั่นก็คือผืนฟ้าที่ทอด ยาวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งไปกว่านี้ฮอลแลนด์เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ต่ำ
กว่าระดับน้ำทะเลน้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกทะเลสาบหรือคลองต่างๆ ด้วยเหตุนี้
จึงจำเป็นต้องปรับพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อการสูบน้ำทะเลออก ทำให้เนเธอร์แลนด์มีสิ่งก่อสร้างด้านวิศวกรรมกำจัดน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันฮอลแลนด์มีประชากรราวๆ 16 ล้านคน

อาหารของประเทศ ฮอลแลนด์

         อาหารของประเทศเนเธอร์แลนด์ส่วนใหญ่จะเป็นพวก มันฝรั่ง ขนมปังและเบคอนต่างๆ เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่ไม่ทานข้าว เช่นเดียวกับประเทศยุโรปทั่วๆ ไปครับ อาหารเลื่องชื่อของเขา ได้แก่ ปลาแฮริ่งสด มักจะทานเปล่าๆ หรือจะทานกับขนมปังก็ได้ ซึ่งมีขายอยู่ทั่วไปครับ ตั้งแต่ตามตลาด ซุ้ม ไปจนถึงภัตตาคารเลยก็มีครับ นอกจากนี้ยังมี สตั๊มป์ผดหรือมันฝรั่งบดผสมกับผัก เวลาทานมักผสมเบคอนลงไปด้วย ยิ่งทานคู่กับไส้กรอกอ้วนๆ ยิ่งเข้ากัน, มันฝรั่งทอดส่วนของหวานขึ้นชื่อของเนเธอร์แลนด์ก็จะเป็น Stroopwafel และ แพนเค้ก (Pannekoek) ซึ่งที่เนเธอร์แลนด์นี้เองถือเป็นต้นตำรับของขนมชนิดนี้ โดยคนที่นี่นิยมทานกับไอศครีมและวิปปิ้งครีมครับ ใครได้มาชิมถึงแหล่งกำเนิดเป็นต้องติดใจไปทุกราย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ



Stroopwafel
สภาพอากาศ
เนเธอร์แลนด์มีอากาศเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 18.3 องศาเซลเซียส และต่ำสุดเฉลี่ย 2.6 องศาเซลเซียส และจะมีฝนตกเป็นระยะๆ 
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไป
       อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ มีประชากรในเขตตัวเมืองประมาณ 742,000 คน แต่ถ้านับรวมประชากรในเขตเมืองโดยรอบทั้งหมด จะมีประมาณ 1.5 ล้านคน (ข้อมูลปี 2005) อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป โดยเฉพาะช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ถึงแม้อัมสเตอร์ดัม จะเป็นเมืองหลวงของประเทศ แต่ศูนย์กลางของหน่วยงานรัฐบาลนั้นอยู่ที่เฮก 
ร็อตเตอร์ดัม (Rotterdam) เป็นเมืองท่าหลัก และเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์) ร็อตเตอร์ดัมนับเป็นเมืองท่า ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีลักษณะต่างจากเมืองอื่น ๆ ในเนเธอร์แลนด์คือเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการส่งเสริมการท่อง เที่ยวเป็น เมืองแห่งสถาปัตยกรรม
เมือง Giethorn Water City ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น Venice of Holland เป็นเมืองที่อาศัยกับลำน้ำคูคลองมีเทศกาลพาเรดกลางน้ำในตอนกลางคืนให้ชม วิธีการชมก็คือการนั่ง เรือออกไป 

  Efteling Park, ที่ Kaastsheuvel เป็นสวนสนุกที่มีบรรยากาศเป็นอุทยานหรือสวนสาธารณะที่เป็นธรรมชาติ เคยได้รับรางวัล Applause award ว่าเป็นสวนสนุกที่ดีที่สุด แห่งหนึ่งของโลก


     

สรุปว่าเนเธอแลนด์หรือที่เราเรียกกันว่าฮอลแลนด์นั้นนับเป็นหนึ่งในอีกหลายๆประเทศที่น่าเที่ยวมากจริง มีทั้งสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม อาหารก็อร่อย อย่าลืมไปให้ได้นะครับ!!!
 
เที่ยวแดนน้ำหอม ของแบรนแนม ฝรั่งเศส
          ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีชื่ออย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การเป็นแหล่งผลิตของไวน์ และแชมเปญที่สำคัญที่สุดของโลกในปัจจุบัน และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ เรื่องของน้ำ อม ที่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของผู้หญิงเลยก็ว่าได้ครับ นอกจากนั้นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและยังคงความงดงามไว้ ยังเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมมากมายเช่นกัน ครับ
         เวลาเรานึกถึงฝรั่งเศสก็จะนึกถึงหอไอเฟลซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของฝรั่งเศสแต่ฝรั่งเศสแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่หอไอเฟล แต่มีดีมากกว่านั้นเรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมีดังนี้
   มหาวิหารโนเตรอดาม แห่งเมืองรวง สร้างด้วยศิลปแบบกอธิคตอนปลาย และมีการสร้างเสริมต่อเติมด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยจากศตวรรษที่ 12-19 จึงมีปะปน ทั้งแผ่นหินหนาแกะสลักหยาบๆปูนปั้นละเอียดราวดอกไม้ไหวและหลังคายอดแหลมสูง รวมทั้งกระจกสีที่สวยงามวิจิตร 
 โดวิลส์ (Deauville) เมืองตากอากาศริมทะเลอีกเมืองหนึ่ง ที่ดาราและนางแบบนิยมมาถ่ายรูปลงปกนิตยสารกันอยู่เป็นประจำ มีการสร้างสะพานไม้ เพื่อการนี้การนี้โดย เฉพาะ เดินเที่ยวชมเมืองเล็กๆ ที่หรูหรา และแวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของเหล่าชนชั้นสูงในอดีต ตัวเมืองเรียงรายไปด้วยด้วยอาคารร้านค้าสวยงามน่ารัก ขายสินค้ายี่ห้อดังๆ อาทิ กุชชี่, คาร์เทียร์, คริสเตียนดิออร์, หลุยส์ วิตตอง, ปราดาและห้างแพรงตองส์ ในบรรยากาศสบายๆ 
     
อนุสรณ์สถานพิพิธภัณฑ์เพื่อสันติภาพ (Momorial de Caen) ซึ่งเก็บเรื่องราวเกี่ยวกับการรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยประวัติศาสตร์ของแคว้นนอร์มังดี มีอาคารกว่า 200,000 หลังถูกทำลาย ผู้คนเสียชีวิตนับแสน และการยกพลขึ้นบกในวันดี-เดย์ ตลอดจนเรื่องราวของผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพคนแรกจนถึงปัจจุบัน  


   มงแซงต์-มิเชล ศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งกรุงโรม สร้างมาหลายยุคหลายสมัยเปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดการสร้าง จน ค.ศ. 966 นักบวชนิกายเบเนดิกตีนจากวิหารแซ็ง-ว็องดรีย์ ได้สร้างโบสถ์และอาคารขึ้นใหม่เป็นอารามขนาดใหญ่ และมีการตั้งชื่อใหม่ว่ามงแซ็งต์-มิเชล   ตัววิหารตั้งอยู่บนฐานหินแกรนิตขนาดใหญ่ สูงจากระดับน้ำทะเล 75 เมตร (250 ฟุต) จากนั้นมีการสร้างต่อเติมหลายยุคหลายสมัยที่แคว้นนอร์มังดีเรืองอำนาจและอิทธิพล ถึงที่สุด เป็นศาสนสถานสำหรับบำเพ็ญสมาธิและถือสันโดษมาตั้งแต่โบราณ องค์การยูเนสโก ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1979





    พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของประเทศ ด้านหน้ามีปิระมิดแก้วช่วยกระจายแสงไปยังสนามที่รายล้อมอยู่รอบด้านกับห้องที่อยู่เบื้องล่าง และทำ หน้าที่เป็นประตูทางเข้าของพิพิธภัณฑ์ เดิมที่นี่เป็นพระราชวังยุคศตวรรษที่ 13 และเป็นที่ประทับของกษัตริย์มาจนถึงในปี 1793 จึงถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด ในโลก รวบรวมสิ่งมีค่าหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะภาพเขียนผลงานชั้นยอดประมาณ 6,000 ภาพ 
    นับได้ว่ามากที่สุดในโลก หนึ่งในภาพนั้นคือ โมนาลิซ่า และภาพพระราชพิธีราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นเป็น จักรพรรดิ์และยังมีงานแกะสลักอีกกว่า 2,000 ชิ้น ที่มีชื่อเสียงที่ สุดคือรูปแกะสลักหินอ่อนวีนัส 
    จากนั้นชมส่วนของอียิปต์โบราณแหล่งกำเนิดอารยธรรมเก่าแก่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาเกือบ 4,000 ปี ชมงานศิลปะล้ำค่าที่เป็นความภาคภูมิใจของพิพิธภัณฑ์ อาทิ มัมมี่ ซึ่งมีอายุหลายพันปีอยู่ในโลงที่เขียนด้วยลวดลาย สวยงาม แสดงถึงฐานะของศพนั้น
      เป็นอย่างบ้างครับเมืองในดวงใจของสาวๆและผู้ดีทั้งหลาย  น่าสนใจใช่ไม๊ครับอย่าลืมไปกันให้ได้น่ะครับ
      และประเทศนี้เป็นพระเทศที่มีชื่อเสียงด้านการดนตรี ว่ากันว่าดนตรีอันไพเราะของเราสามารถทำให้เราฉลาดขึ้นมาได้ เขาคนนั้นคือ โมสาร์ท เรามาดูกันว่าประเทศนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง Les’s go!!!
        ประเทศออสเรียเป็นประเทศขนาดเล็กตั้งอยู่ในยุโรปตอนกลางตอนกลาง ทำให้เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างยุโรปตะวันออก กับยุโรปตะวันตก มีพรมแดนติด 8 ประเทศ คือ เยอรมัน สาธารณรัฐเช็ค สาธารณรัฐสโลวัค ฮังการี สโลเวเนีย อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ประเทศออสเตรียเป็นประเทศปิด ไม่มีทางออกสู่ทะเลเลยครับ แหล่งน้ำส่วนใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็จะเป็นพวกทะเลสาบ คลองต่างๆ ครับ ประเทศออสเตรียมีเมืองหลวงคือกรุงเวียนนา
  ภาษาที่ใช้ในออสเตรีย ชาวออสเตรียส่วนใหญ่จะใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลัก นอกนั้นก็จะพูดหลากหลายภาษาครับ เช่น ภาษาเซิร์ปโครแอท ภาษาตุรกี เป็นต้น
  สภาพอากาศ ออสเตรียอยู่ในเขตอบอุ่น มีลักษณะภูมิอากาศแบบยุโรปตอนกลางซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากภูมิอากาศแบบแอตแลนติก ฤดูร้อนมีอากาศอบอุ่นและมีฝนโปรยในบางครั้ง ส่วนฤดูหนาวจะค่อนข้างหนาวเย็นครับ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 5 องศาเซลเซียส ถ้าขึ้นไปที่สูงอุณหภูมิจะลดลงเรื่อยๆ และมีหิมะปกคลุมในแถบภูเขาด้วยครับ ประเทศนี้มีทั้งหมด 4 ฤดูกาลด้วยกัน คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว แต่เนื่องจากความแตกต่างของลักษณะทางภูมิประเทศ ทำให้สามารถแบ่งลักษณะภูมิอากาศออกได้เป็น 3 เขตครับ ได้แก่
 เขตตะวันออก ได้รับอิทธิพลจากภูมิประเทศที่เป็นภาคพื้นทวีป ทำให้มีปริมาณฝนน้อย ฤดูร้อนอากาศร้อน แต่ฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัดครับ  เขตอัลไพน์: มีปริมาณฝนมากครับ (ยกเว้น ในแถบหุบเขาอัลไพน์ใน ยกตัวอย่างเช่น ไฮอินน์ทาล) ฤดูร้อนจะสั้น แต่มีฤดูหนาวที่ยาวนาน  ส่วนอื่นๆ ของประเทศ อากาศเปลี่ยนแปลงได้ง่ายเพราะได้รับอิทธิพลจากแอตแลนติก (ฝั่งตะวันตก) และภาคพื้นทวีปทางตะวันออกเฉียงใต้ครับ

เขตอัลไพน์: มีปริมาณฝนมากครับ (ยกเว้น ในแถบหุบเขาอัลไพน์ใน ยกตัวอย่างเช่น ไฮอินน์ทาล) ฤดูร้อนจะสั้น แต่มีฤดูหนาวที่ยาวนาน   ส่วนอื่นๆ ของประเทศ: อากาศเปลี่ยนแปลงได้ง่ายเพราะได้รับอิทธิพลจากแอตแลนติก (ฝั่งตะวันตก) และภาคพื้นทวีปทางตะวันออกเฉียงใต้ครับ

            










อาหารท้องถิ่น 
    (ภาพอาหารของออสเตรีย)


สถานที่น่าเที่ยวในออสเตรีย
ชิงช้าสวรรค์ยักษ์
      ใครที่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องราวหรือเห็นภาพชิงช้าสวรรค์ยักษ์ของเวียนนาจากโบรชัวร์ ชิงช้าสวรรค์ยักษ์นี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงและสัญลักษณ์ที่มีคนชอบปละนิยมไปมากสุดของออสเตรียด้วยความสูง 64.75 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 60.96 เมตร ชิงช้าสวรรค์ยักษ์คือสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเวียนนา ดึงดูดผู้คนจากในประเทศและนอกประเทศ
       ชิงช้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อฉลองวโรกาสครองราชย์ครบ 50 ปี ของจักรพรรดิฟรานซ โยเซฟ ที่ 1 ออกแบบโดย ดับเบิ้ลยู บัสเส็ท แอนด์ เอช สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1897 เดิมมีตู้กระเช้า 30 ตู้ แต่ลดเหลือ 15 ตู้ในปี 1945 นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเวียนนาทุกคนควรหาโอกาสขึ้นชิงช้าสวรรค์ยักษ์แห่งนี้ให้ได้ เพราะเป็นวิธีชมเมืองโดยรอบที่ง่ายและเยี่ยมที่สุด ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ยังเปิดให้เช่าสำหรับงานฉลองเล็กๆและการจัดแถลงข่าว พร้อมบริการอาหารค่ำชั้นเลิศในตู้กระเช้า เดอลุกซ์จำนวน 2 ตู้
พระราชวัง Schloss Hof
พระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายออยเก๋นเนอร์ (Prince Eugene) ที่ชื่อ Schloss Hof เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างสไตล์บาโรคที่จัดว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกปรับปรุงให้คืนกลับมามีชีวิตอีกครั้งเพราะมีโครงการซ่อมแซมครั้งใหญ่ เริ่มต้นในปี 2002 และใช้งบประมาณไปกว่า 30 ล้านยูโร
พิพิธภัณฑ์แสนพิลึก นอนเซียม” (Nonseum)
   "หมู่บ้านของคนพิสดาร และพิพิธภัณฑ์สำหรับสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีใครต้องการ "
หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนความสูง 212 เมตร ขับรถจากเวียนนามาแค่ 1 ชั่วโมงแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนที่มีอารมณ์แบบแปลกๆ ที่แฮร์นบามการ์เทน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนเชค หลังหมู่บ้านผลิตไวน์พอยส์ดอร์ฟ นั้น ผู้คนในหมู่บ้านจะมีมุมมองในการมองโลกแบบใหม่ที่สวนทางกับผู้คนทั่วไป บ้างก็ช่างเสียดสี บางคราอาจมีอัธยาศัยดี แต่บางครั้งก็มีเมตตาแบบผิดปกติ สิ่งหนึ่งที่แสดงออกซึ่งความไม่ธรรมดาซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก ของเมืองนี้ได้อย่างชัดเจนคือที่ พิพิธภัณฑ์นอนเซียม ซึ่งเต็มไปด้วยการจัดแสดงผลงานประหลาด ตั้งแต่โนมถูกเผา เครื่องกิโยตินเล็บ ไปจนถึงเครื่องป้องกันส้นสูง
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเยอรมัน
กำแพงเบอร์ลิน (Berliner Mauer)
เป็นอนุสรณ์ให้กับคนรุ่นหลัง จะมีไม้กางเขนปักอยู่ สถานที่บริเวณนั้นเป็นบริเวณที่ผู้หลบหนีในอดีตถูกยิงเสียชีวิตตรงนั้น จึงมีการเอาไม้กางเขนมาปักไว้เป็นอนุสรณ์เตือนใจ ให้คนรุ่นหลังระลึกถึงถึงการเสียชีวิตดังกล่าว
ประตูบรานเดนบวร์ก (Brandenburger Tor/Brandenburg Gate)
เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบอร์ลิน(เมืองหลวง)เพราะเป็นประตูเมืองเก่า ได้รับการก่อสร้างระหว่าง ค.ศ.1788-91 ตามศิลปะแบบโรมัน โดยฝีมือ C.G.Langhans สถานที่แห่งนี้ถือเป็นเครื่องหมายแห่งความสงบสุข  และมีความสำคัญโดยเป็นจุดแบ่งกรุงเบอร์ลินออกเป็นสองส่วนคือตะวันออกและตะวันตก ด้านบนมีรูปปั้นชื่อ Quadrigaสูง 5เมตร มีราชินีแห่งชัยชนะ (Siegesgoettin Viktoria)
จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz)
อยู่กลางใจเมืองของนครมิวนิค 850 ปีมาแล้วตั้งแต่ยุโรปสมัยกลาง (Middle Ages) เป็น " หัวใจ " ของเขตเมืองเก่า และเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มชมเมือง ในยุคกลางที่นี่เคยเป็นตลาด แต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ มาเรียนพลาตซ์ มีจุดเด่นอยู่ที่ Glockenspiel หอระฆัง ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ เวลา 11 โมงเช้าในหน้าหนาว และ 5 โมงเย็นในหน้าร้อน
      เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับประเทศนี้ อาหารก็น่าอร่อย สถานที่ก็สวยงาม เป็นประเทศหนึ่งที่ควรค่าแก่การไปเยือนจริงๆ

 
    เห็นกันแล้วใช่ไม๊ครับว่า เมืองออสเตรียแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ ดนตรี และมีสถานทีท่องเที่ยวที่ไปมากๆอย่าลืมไปกันให้ได้นะครับ
     มาอีกประเทศหนึ่งแล้วน่ะครับประเทศนี้เป็นประเทศที่รู้จักกันเป็นอย่างดีทั่วโลก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีผลงานด้านสงครามที่โดดเด่น ประเทศนี้คือ ประเทศเยอรมัน ประเทศนี้เป็นประเทศที่น่าสนใจและมีดีในหลายๆด้านเราลองมาดูกันว่าประเทศนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
                                              (วิดีโอภาพส่วนหนึ่งของเยอรมัน)
ลักษณะภูมิประเทศและที่ตั้ง
       สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หรือเรียกสั้นๆ ว่าเยอรมันหรือเยอรมนี ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป ล้อมรอบด้วยประเทศเพื่อนบ้านถึง 9 ประเทศ คือเดนมาร์กอยู่ทางเหนือเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์กและฝรั่งเศสอยู่ทางตะวันตก สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรียอยู่ทางใต้ สาธารณรัฐเชคและโปแลนด์อยู่ทางตะวันออก นับเป็นประเทศยุโรปที่มีจำนวนเพื่อนบ้านมากที่สุด
       เยอรมันมีพื้นที่ประมาณ 357,000 ตารางกิโลเมตร พรมแดนทางตอนเหนือของประเทศติดกับฝั่งทะเลเหนือ (North Sea) และทะเลบัลติค ทางตอนใต้จรดเทือกเขาแอลป์ในบาวาเรียน ระยะทางส่วนที่ยาวที่สุดจากเหนือจรดใต้ประมาณ 876 กิโลเมตร จากตะวันตกไปตะวันออกประมาณ 640 กิโลเมตร ภูมิประเทศของเยอรมันมีทิวทัศน์งดงามแตกต่างกันไปหลายรูปแบบ ทั้งเทือกเขาสูงต่ำสลับกับที่ราบสูงและพื้นที่ลดหลั่นเป็นชั้น เนินเขาทะเลสาบตลอดจนที่ราบโล่งกว้างใหญ่ ทางตอนเหนือเป็นแนวชายฝั่งทะเลเต็มไปด้วยเกาะแก่ง ทะเลสาบ ท้องทุ่งที่มีพุ่มไม้ปกคลุม เนินทราย และบริเวณปากแม่น้ำที่สวยงาม ส่วนทางตอนใต้แถบที่ราบสูงชวาเบียน-บาวา เรียงเต็มไปด้วยเนินเขาและทะเลสาบขนาดใหญ่ มีบริเวณครอบคลุมถึงเทือกเขาแอลป์ในส่วนของเยอรมัน

    อาหารและเครื่องดื่มยอดนิยมของชาวเยอรมนี ของชาวเยอรมนี ประเทศเยอรมนีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติเป็นเบียร์บริโภคเบียร์เยอรมันเป็นของสูงที่สุดในโลกและชาวเยอรมันบริโภคเนื้อในรูปของไส้กรอกมากที่สุดไส้กรอกของประเทศเยอรมนีประเทศเดียวมีถึง 1,500 ชนิด